แรงงานไทยที่ได้รับค่าจ้างและค่าล่วงเวลาตามกฎหมายแรงงาน สามารถส่งเงินกลับบ้านได้เฉลี่ยเดือนละ 25,000 – 30,000 บาท แม้ว่าแรงงานไทยจะมีคู่แข่งในตลาดแรงงาน 15 ประเทศ แต่แรงงานไทยยังเป็นแรงงานที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆ จากผลสำรวจความพึงพอใจของนายจ้างเมื่อเดือนธันวาคม 2553 ปรากฏว่าแรงงานไทยได้รับความพึงพอใจเป็นลำดับที่ 4 ดังนี้
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 คณะทูตอาเชียน ประกอบด้วยอัครราชทูตที่ปรึกษา ประเทศฟิลิปปินส์ พม่า บังคลาเทศ และประทศไทย ได้เข้าร่วมหารือกับนาย Kang Seong Cheon สส. พรรค Grand National Party และกลุ่ม สส. พรรครัฐบาลที่ร่วมกันเสนอร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการจ้างแรงงานต่างชาติภายใต้ระบบ EPS เพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการผ่อนผันให้แรงงานที่ทำงานครบตามสัญญา 4 ปี 10 เดือน สามารถเดินทางกลับเข้าทำงานที่เกาหลีได้โดยไม่ต้องสอบภาษาเกาหลีและไม่ต้องเข้ารับการอบรมอีกครั้ง รวมทั้งลดระยะเวลาการกลับไปพำนักในประเทศของตนจาก 6 เดือนเป็น 3 เดือน ซึ่งจะช่วยป้องกัน และแก้ไขปัญหาแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามฝ่ายฟิลิปปินส์และฝ่ายไทยได้หยิบประเด็นเรื่องเพดานอายุของแรงงานต่างชาติที่กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 40 ปี ณ วันเดินทางซึ่งในร่างกฎหมายฉบับแก้ไขยังระบุไว้เท่าเดิม และอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนงานที่มีอายุครบเกณฑ์ดังกล่าวตัดสินใจลักลอบทำงานต่อโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งได้สอบถามเรื่องประเภทของงานที่ได้รับการผ่อนผันตามกฎหมายที่แก้ไขดังกล่าว ซึ่งในเรื่องนี้ผู้แทนกระทรวงการจ้างงานและแรงงานได้ชี้แจงว่า เกาหลีใต้ยังให้ความสำคัญต่อการจ้างแรงงานชาวเกาหลีใต้เป็นอันดับแรก และจ้างแรงงานต่างชาติในกรณีที่มีความขาดแคลนเท่านั้น ทั้งนี้ประเภทงานที่จะผ่อนผันดังกล่าวจะครอบคลุม 3 ภาค ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรม การผลิต การเกษตร / ประมง และภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการประมงเท่านั้น
ขอบคุณที่ติดตามบล็อก konthai 122
ที่มา : ฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล