อาชญากรรมระบาดหนัก ไปเกาหลีต้องระวัง


ตามที่ได้มีการเตือนถึงภัยอันตรายที่มีต่อคนไทยในต่างประเทศในรูปแบบต่างๆ นั้น ภัยจากการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมก็เป็นอีกประเภทหนึ่งที่คนไทยมีโอกาสต้องประสบพบเจอได้ง่ายๆ เวลาเดินทางไปต่างประเทศ คนไทยที่ต้องโชคร้ายเจอกับภัยลักษณะนี้ก็มีทั้งผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยว ไปทำงาน นักเรียนนักศึกษา ไม่เว้นแม้แต่นักการทูตที่ีมีเอกสิทธิ์ความคุ้มกันก็มิวายถูกปล้นถูกจี้กันเป็นประจำ บางครั้งถึงกับเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะคนร้ายมีอาวุธพร้อมจะทำร้ายเหยื่อทุกเมื่อหากขัดขืน

อาชญากรรมที่เกิดขึ้นก็ไม่จำเป็นจะต้องเเกิดในประเทศด้อยพัฒนาหรือประเทศยากจนเสมอไป ในปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่า ในประเทศที่ได้ชื่อว่าเจริญแล้วกลับมีการประกอบอาชญากรรมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ก็ล้วนมีอัตราการก่ออาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

คนไทยเราหลายคนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศอาจเคยประสบกับเรื่องราวของการถูกลัก วิ่ง ชิง ปล้น กันมาบ้างแล้ว บางรายได้ทรัพย์สินคืนก็โชคดีไป บางรายโชคร้ายสูญเงินและทรัพย์สินทั้งหมด เอกสารก็หาย มีบ้างที่ถูกทำร้ายร่างกายเป็นของแถม

คนไทยคนล่าสุดที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมเป็นนักธุรกิจที่เป็นตัวแทนองค์กรของรัฐเดินทางไปประชุมเกี่ยวกับมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ประเทศหนึ่งในแถบอเมริกาใต้ร่วมกับผู้แทนจากหลายประเทศ ภายหลังการประชุมก็จะออกไปรับประทานอาหารกลางวันกับผู้ร่วมประชุมคนอื่นๆ จึงได้เก็บกระเป๋าและทรัพย์สินมีค่ารวมไว้ในห้องประชุมพร้อมกับคนอื่นๆ พอกลับมาปรากฎว่าของทั้งหมดสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หาคนรับผิดชอบไม่ได้ นี่ขนาดในห้องประชุมในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของประเทศ

นอกจากทรัพย์สินมีค่าแล้ว พาสปอร์ตก็หายไปด้วย หนุ่มไทยรายนี้จึงต้องแจ้งขอความช่วยเหลือจากสถานทูตซึ่งทางสถานทูตก็ได้จัดการเรื่องเอกสารเดินทางให้จนเรียบร้อยและเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ในเรื่องนี้ สถานทูตจึงฝากเตือนคนไทยทุกคนไม่ว่าจะเดินทางไปทำอะไรในประเทศแถบลาตินอเมริกา (อันที่จริงก็น่าจะเป็นทุกประเทศทั่วโลกนั่นแหละ) ให้ระวังตัวและทรัพย์สินมีค่าไว้ให้ดี ยิ่งเ็ป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่พูดภาษาสเปนจะเป็นเป้าหมายอันโอชะของบรรดาอาชญากรที่จ้องจะเล่นงานกับคนต่างชาติกลุ่มนี้เป็นพิเศษ โอกาสที่จะต้องตกเป็นเหยื่ออาชญกรรมจึงสูงมาก

จะเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง ขอให้ระวังทรัพย์สินและถ้าจะให้ดีจดหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่ของสถานทูต/สถานกงสุลของไทยไว้ด้วย ยิ่งถ้าเป็นประเทศที่สถานการณ์เสี่ยงมากและไม่ค่อยมีคนไทยเดินทางไปหรือไม่ใช่เป็นประเทศสำหรับการท่องเที่ยวก็ขอให้แจ้งสถานทูต/สถานกงสุลทราบไว้ก่อนจะเป็นการดีที่สุด สำหรับหนังสือเดินทางหรือเอกสารสำคัญ ควรถ่ายสำเนาเอกสารและนำติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะเกิดเอกสารจริงสูญหายก็ยังมีสำเนาที่จะช่วยให้การดำเนินการต่างๆ เพื่อออกเอกสารให้ใหม่รวมทั้งการประสานงานกับทางการต่างประเทศเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น
ขอบคุณที่ติดตามบล็อก konthai 122
ที่มา : กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ
          กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ