นิสัยคนเกาหลี

นิสัยคนเกาหลี

พื้นฐานเดิมเกาหลีเคยตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น 35 ปีและก่อนหน้านั้นก็เคยตกอยู่ใต้การปกครองของจีน มองโกเลีย ทำให้ชาวเกาหลีตระหนักถึงความยากลำบากต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดลักษณะนิสัยอย่างหนึ่งคือ ความขยันหมั่นเพียร เพื่อที่จะเอาชนะความยากลำบากเหล่านั้น และด้วยลักษณะนิสัยดังกล่าวนี้เอง เป็นส่วนทำให้ประเทศเกาหลีกลายเป็นประเทศพัฒนาเช่นปัจจุบันชาวเกาหลีจะมีนิสัยพูดเสียงดัง เนื่องจากว่าการพูดเสียงดังแสดงถึงพลังและอำนาจ และความเข้มแข็ง ดังนั้น ขณะสนทนากับชาวเกาหลี แม้ว่าจะอยู่ใกล้กันก็ตามแต่เขาจะพูดเสียงดังทีเดียว ทำให้ชาวต่างชาติรู้สึกเหมือนตะคอก หรือตะโกน แต่หากถามชาวเกาหลีแล้ว การพูดเสียงดังเช่นนั้นเป็นเรื่องปกติ
         ชาวเกาหลีจะเอาใจใส่กับงานที่ตนเองทำหรือรับผิดชอบ จะเอาจริงเอาจังกับนั้นมากทีเดียวชาวเกาหลีมักจะคิดเร็ว ทำเร็ว จนมีคำกล่าวว่า ทุกอย่างต้องเร็วหมด เนื่องจากสภาพที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นทำให้เขากระทำทุกอย่างด้วยความเร็ว จะสังเกตได้ง่าย เช่น การทำงาน มีความรู้สึกว่าเขาทำงานด้วยความเร็วสูง หรือการเดินในที่สาธารณะ เพราะความเร็วนี้เอง เมื่อเดินในที่สาธารณะจะปะทะกับผู้อื่นตลอดเวลา สร้างความไม่พอใจให้กับชาวต่างชาติ แต่สำหรับชาวเกาหลีแล้ว การเดินปะทะกันเช่นนั้นไม่ใช่สิ่งแปลก ปัจจุบันนี้สภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจมีมาก ก็ยิ่งสร้างความเร็วให้กับชาวเกาหลีมากยิ่งขึ้นเมื่อไปรับประทานอาหารร่มกันหลาย ๆ คน คนเกาหลีจะไม่แยกกันจ่ายหรือเฉลี่ยกัน โดยทั่วไปแล้ว คนที่ชวนคนอื่นจะเป็นผู้จ่าย และมักจะเลี้ยงอาหารดี ๆ เพื่อให้ประทับใจ
         นอกจากข้างต้นแล้ว สามารถสรุปนิสัยด้านดีของชาวเกาหลีได้ดังนี้ คือ บากบั่น ขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์ มั่นคง เคารพบรรพบุรุษ เป็นคนช่างคิด รักในการเรียน มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่ มีความกตัญญู ความเป็นชาตินิยมสูง
         ข้อเสียของชาวเกาหลี คือ ยึดตัวเองเป็นหลักมากเกินไป แบ่งพรรคแบ่งพวก การเอาชนะผู้อื่น ขาดเหตุผล มองโลกในแง่ร้าย มักไม่ไว้ใจคนอื่น มีข้ออ้างหรือข้อแก้ตัวตลอดเวลา

การทักทาย

        การทักทายของชาวเกาหลีจะใช้การโค้งคำนับ ซึ่งจะโค้งมากน้อยขึ้นอยู่กับความอาวุโสของผู้ที่รับการคำนับ

วัฒนธรรมเกาหลี

        ในปัจจุบันสังคมเกาหลีได้รับอิทธิพลจากตะวันตก จีน และญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นวัฒนธรรมบางส่วนได้เปลี่ยนไปบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ถือว่าเป็นรุ่นที่ยอมรับวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามามากที่สุด เกาหลีมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากมาย แต่ในที่นี้จะขอเอ่ยถึงวัฒนธรรมที่สำคัญเท่านั้น

วัฒนธรรมการแต่งกาย

        ปัจจุบันชาวเกาหลีจะแต่งกายแบบสมัยนิยม แต่หากเป็นงานพิธี เช่น พิธีแต่งงาน พิธีวันเกิด หรือการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ก็จะนิยมแต่งกายโดยชุดประจำชาติ ซึ่งชุดประจำชาติของเกาหลี เรียกว่า “ฮันบก” หากแปลตามตัวอักษรแล้ว “ฮัน” หมายถึงชาวเกาหลี “บก” หมายถึงเสื้อผ้า หรือชุด รวมแล้วหมายถึง ชุดของชาวเกาหลีนั่นเอง
         ชุดฮันบกมีหลายลักษณะ ซึ่งจะออกแบบตามฤดูกาล เช่น ชุดฮันบกฤดูร้อนกับหนาว ความหนาของเนื้อผ้าและชุดจะแตกต่างกัน ชุดฮันบกของผู้สูงอายุกับวัยรุ่นหรือเด็ก ๆ ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป เช่น ฮันบกของผู้อาวุโส จะเป็นสีพื้นหรือสีทึบ ๆ แต่ของวัยรุ่น จะมีลักษณะหลากสีสัน ชุดฮันบกสามารถบ่งบอกได้ว่าผู้หญิงที่สวมใส่นั้นแต่งงานหรือยัง หากมีลักษณะหลากสีสัน และมีแถบสีที่แขนหลาย ๆ แถบ แสดงให้เห็นว่าผู้นั้นยังไม่แต่งงาน และนิยมถักเปียยาวอีกด้วย หากเป็นชุดฮันบกสีขาว หมายถึง ชุดไว้ทุกข์ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว ชาวเกาหลีจะไมใส่ชุดฮันบกสีขาว ในปัจจุบันผู้ที่สวมใส่ชุดฮันบกมักจะเป็นผู้ที่แต่งานแล้ว และเป็นผู้ใหญ่เป็นส่วนใหญ่

วัฒนธรรมการกิน

        อาหารหลักของชาวเกาหลี คือ ข้าว เช่นเดียวกับคนไทยที่กินข้าวเป็นอาหารหลัก แต่ลักษณะของกับข้าวนั้นแตกต่างกัน โดยเฉพาะรสชาติของเกาหลีนั้น จะมีความเผ็ดน้อยกว่าของไทย ทำให้ชาวไทยคิดว่าชาวเกาหลีรับประทานอาหารรสไม่จัด อาหารเกาหลีจะมีอาหารประเภทผักมากกว่าเนื้อ ชาวเกาหลีจะปลูกฝังให้ลูกหลานรับประทานผักมากกว่าเนื้อ
         สำหรับอาหารที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลี คือ กิมจิ เป็นพวกผักดอง โดยใส่เครื่องปรุงรสลงไป ทุกครั้งที่รับประทานอาหารกิมจิจะต้องปรากฏบนโต๊ะอาหาร หากขาดกิมจิอาหารมื้อนั้นก็จะขาดรสชาติไปเลย หากบ้านไหนหรือร้านไหนทำกิมจิอร่อย ถือว่าบ้านนั้นทำกับข้าวได้อร่อยด้วย อาหารเกาหลีในแต่ละภูมิภาคนั้น จะมีรสชาติที่แตกต่างกัน จังหวัดชอลลาโด ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่อาหารอร่อยที่สุด อาหารที่ขึ้นชื่อได้แก่ พิบิมบับ ( ข้าวยำ ) คงนามูลกุกบับ ( ข้าวต้มถั่วงอก ) นอกจากนี้ยังมีอาหารชุด ซึ่งมีกับข้าวมากกว่า 20 ชนิด ( ฮันจองชิก )
         ชาวเกาหลีไม่นิยมนั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะ แต่จะนั่งบนพื้นและมีโต๊ะสำหรับวางอาหาร ( พับซัง ) มีถ้วยซุปซึ่งวางทางด้านขวาของข้าวและมีช้อนกับตะเกียบวางอยู่ ชาวเกาหลีใช้ตะเกียบในการรับประทานอาหารซึ่งเป็นตะเกียบเหล็ก บนโต๊ะกับข้าว อาจมีหม้อแกงใหญ่วางอยู่ ซึ่งทุคนใช้ตะเกียบหรือช้อนของตนเองตักอาหาร ไม่ใช้ช้อนกลาง แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์และปรองดองกันได้เป็นอย่างดี
         มารยาทอย่างหนึ่งของการรับประทานอาหารคือ คนที่อาวุโสที่สุด ณ ที่นั้น จะเป็นผู้ที่จับช้อน ตะเกียบตักอาหารก่อน หลังจากนั้น ผู้น้อยจึงจะสามารถรับประทานอาหารได้ และเราจะต้องรับประทานอาหารที่ตักมาให้หมด หากรับประทานไม่หมดถือว่าอาหารนั้นไม่อร่อย

ขอบคุณที่ติดตามบล็อก konthai 122
ที่มา : learners.in.th